ระบบหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ (2) : ชีพจรและความดันเลือด
ชีพจร
ภาพที่ 4.1 การจับชีพจร
ที่มาภาพ : https://pantip.com/topic/33039354
ชีพจร (Pulse หรือ Pulse rate หรือ Heart rate หรือ Heart beat) คือ อัตราการเต้น
ของหัวใจ โดยนับผ่านการเต้นของหลอดเลือดแดงในระยะเวลา 1 นาที ทั้งนี้ตำแหน่งที่นิยมวัด
หรือจับชีพจร คือ ตำแหน่งด้านหน้าข้อมือส่วนที่ต่ำกว่าฐานของนิ้วหัวแม่มือ โดยการวางนิ้วชี้และ
นิ้วกลางลงบนตำแหน่งนั้น กดลงเบาๆ ก็จะรับรู้ได้ถึงการเต้นของหลอดเลือดแดง ทั้งนี้สามารถ
จับชีพจรได้ในตำแหน่งต่าง ๆ ที่หลอดเลือดแดงขนาดกลางอยู่ติดกับผิวหนัง จึงสามารถคลำ
พบได้ง่าย (ปกติหลอดเลือดแดงจะอยู่ลึกคลำพบยาก หลอดเลือดส่วนใหญ่ที่มองเห็น
จะเป็นหลอดเลือดดำ) เช่น ที่ขาพับด้านนิ้วหัวแม่เท้าที่ด้านในของขาหนีบ ที่ลำคอส่วนที่ติด
กับลูกกระเดือก เป็นต้น
ความดันเลือด
ภาพที่ 4.2 ความดันเลือด
ที่มาภาพ : http://m.laughinggif.com/gifs/f223mlrrkr
ความดันเลือด หมายถึง แรงดันของเลือดในหลอดเลือดที่กระทบต่อผนังหลอดเลือด
ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจสามารถหดตัวและคลายตัวได้ การหดตัวของหัวใจ เรียกอีกอย่าง
หนึ่งว่า การบีบตัว และการบีบตัวของหัวใจนี้ทำให้เกิดความดันในหลอดเลือด ขณะที่หัวใจบีบตัว
จะดันเลือดออกไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตามหลอดเลือดอาร์เทอรี และขณะที่หัวใจคลายตัว
เลือดจะไหลกลับเข้าสู่หัวใจได้อีกทางหลอดเลือดเวน หลอดเลือดที่เหมาะสำหรับวัดความดันเลือด
คือ หลอดเลือดอาร์เทอรีที่ต้นแขน เนื่องจากเป็นหลอดเลือดที่อยู่ใกล้หัวใจ ค่าที่ได้จะใกล้เคียงกับ
ความดันเลือดในหัวใจมากที่สุด
ภาพที่ 4.3 การวัดความดันเลือด
ที่มาภาพ : http://www.genzaacare.com/high-blood-pressure.html
ในการวัดความดันเลือดแพทย์จึงวัดค่าความดันเป็นตัวเลข 2 ค่า มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร
ของปรอท เช่น 120/80 มิลลิเมตรของปรอท ตัวเลข 120 แสดงค่าความดันเลือดสูงสุดขณะที่
หัวใจบีบตัว เรียกว่า ความดันซิสโทลิก (Systolic pressure) ส่วนตัวเลข 80 แสดงค่าความดัน
เลือดต่ำสุด ขณะที่หัวใจคลายตัว เรียกว่า ความดันไดแอสโทลิก (Diastolic pressure) สำหรับ
เครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการวัดความดันเลือด เรียกว่า มาตรวัดความดันเลือด(Sphygmomanometer)
และในการวัด แพทย์จะใช้ควบคู่กับสเต็ทโทสโคป (Stethoscope) โดยปกติค่าความดันเลือดจะอยู่
ที่ 120/80 มิลลิเมตรของปรอท ซึ่งค่าความดันเลือดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับปัจจัย
ดังต่อไปนี้
1. อายุ เมื่ออายุมากขึ้นความดันเลือดก็จะสูงขึ้นด้วย เนื่องจากความยืดหยุ่นของผนัง
หลอดเลือดลดลง ทำให้หัวใจต้องสูบฉีดเลือดแรงขึ้น
2. เพศ โดยทั่วไปเพศชายจะมีความดันเลือดสูงกว่าเพศหญิงที่มีอายุเท่าๆ กัน
3. ขนาดของร่างกาย คนอ้วนมักจะมีความดันเลือดสูงกว่าคนผอม เพราะหลอดเลือด
อยู่ลึกมีชั้นไขมันมาก
4. อารมณ์ ผู้ที่โกรธง่ายและผู้ที่มีจิตใจตกอยู่ในภาวะเครียดเป็นประจำจะมีความดันเลือด
สูง เนื่องจากร่างกายจะสร้างสารชนิดหนึ่งออกมา ซึ่งมีผลต่อการบีบตัวของหัวใจและหลอดเลือด
5. อิริยาบถ ความดันเลือดขณะยืนจะสูงกว่าตอนนั่ง เพราะขณะยืนความดันเลือดที่บริเวณ
ขาจะสูงมากที่สุด บริเวณศีรษะจะน้อยที่สุด เนื่องจากการไหลของเลือดจะไหลไปในทิศทางเดียว
กันกับแรงโน้มถ่วงของโลกได้ดีกว่าทิศทางตรงกันข้ามกับแรงโน้มถ่วงของโลก และความดันเลือด
ขณะนั่งจะสูง กว่าตอนนอนเพราะขณะที่นอนความดันเลือดทุกส่วนของร่างกายจะใกล้เคียงกัน 6. การออกกำลังกายและการทำงาน ขณะออกกำลังกายและทำงาน ร่างกายจะมีความดันเลือด
สูงกว่าบุคคลในภาวะปกติ
รวบรวมจาก
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.2554. หนังสือเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานวิทยาศาสตร์ 4 . กรุงเทพฯ : องค์การค้าของ สกสค.
พิมพันธ์ เตชะคุปต์ และคณะ . 2560.ชุดกิจกรรมพัฒนาการคิด เสริมสร้างสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน. กรุงเทพฯ : สถาบันพัฒนาคุณภาพวิชการ (พว)
http://haamor.com/th/ สืบค้นเมื่อ 19 พฤษภาคม 2560
http://www.scimath.org/article-biology/item/334-pulse สืบค้นเมื่อ 19 พฤษภาคม 2560